วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

E-Business


E-Business(ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์)

        พันทิป.คอม (Pantip.com หรือนิยมเรียกย่อว่า พันทิป) เป็นเว็บไซต์ไทยที่ให้บริการเว็บบอร์ด ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมแห่งหนึ่ง มีห้องสนทนาครอบคลุมแทบทุกหัวข้อที่ตั้งแต่เรื่อง คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ วิทยาศาสตร์ การเมือง ความรู้ กีฬา บันเทิง  พันทิปถือเป็นเว็บไซต์รุ่นแรก ๆ ของประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จ และยังคงดำเนินการมาจนทุกวัน

       ปัจจุบันพันทิปเป็นพันธมิตรกับเนชั่นกรุ๊ป โดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจป้อนข่าวประจำชั่วโมงให้พันทิป และเนชั่นมัลติมีเดียบริหารโฆษณาให้ ซึ่งในปี 2550 เว็บพันทิปเป็น 1 ใน 10 เว็บที่มีคนนิยมมากที่สุดในประเทศไทย รองลงมาจากสนุก.คอม และได้รับการจัดอันดับยอดนิยมของประเทศไทย โดย ทรูฮิต  โดยส่วนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อยู่อันดับ 1 ใน 50 และนอกจากนี้มีให้บริการบล็อก ในเว็บไซต์บล็อกแก๊งก์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเว็บพันทิปโดยตรง


      htpp://hantip.com






        เนื้อหาหลักในเว็บพันทิปจะมีลักษณะการจัดการในลักษณะเว็บบอร์ด โดยในตัวเว็บจะแบ่งออกเป็นหลายส่วนเช่น พันทิปคาเฟ่ TechXchange พันทิปมาร์เก็ต ซื้อขายของ บล็อกแก๊งก์ ให้บริการบล็อก เซิร์ฟเวอร์ของพันทิป ใช้ระบบปฏิบัติการ FreeBSD โดยใช้ซอฟต์แวร์เว็บเซิร์ฟเวอร์ ชื่อ Apache และระบบฐานข้อมูล MySQL

เว็บไซต์ pantip.com เป็นเว็บไซต์ที่ เปิดโอกาสให้ผู้คนที่สนใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจเครือข่าย ได้
- แสดงความคิดเห็น
- วิพากษ์วิจารณ์
- การแบ่งปันความรู้
- ให้ข้อมูลต่างๆ ทั้งในด้านบวก และ ด้านลบ เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายต่างๆ อย่างเสรี..
เว็บไซต์ Pantip.com เป็นเว็บไซต์ชุมชนบนอินเทอร์เน็ต ที่อยู่ในรูปแบบของ "กระดานข่าว" (web board) ซึ่งทุกคนสามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็น หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ ผ่านทางกระทู้ต่างๆ ตามหัวข้อย่อย ที่แบ่งเอาไว้เป็นหมวดหมู่


รูปแปบการทำงานของเว็บไซต์ pantip.com
เป็นแบบ C2C การทำธุรกิจที่เน้น ให้ ลูกค้าสร้างกลุ่มกันเองขึ้นมา เป็นชุมชน เข้า Chat หรือ พูดคุยให้ความเห็นกัน

ข้อดี....
การแสดงความคิดเห็น หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้น จะอ้างอิงข้อความของผู้แสดงความคิดเห็นด้วย "นามแฝง" ต่างๆ กันไป ด้วยเหตุนี้จึงเกิดปัญหาในเรื่องการใช้นามแฝงซ้ำกัน หรือมีการกลั่นแกล้ง โดยอ้างอิงนามแฝงของผู้อื่นมาใช้ โดยเจตนาเพื่อสร้างความเสียหาย และความเข้าใจผิดแก่เจ้าของนามแฝง และผู้ที่อ่านข่าวสาร
เพราะฉะนั้น เว็บไซต์ Pantip.com จึงจัดทำระบบสมาชิกขึ้นมา เพื่อให้ผู้ที่มีชื่อเป็นสมาชิกนั้น มีสัญลักษณ์พิเศษ (รูปอมยิ้ม) ตามหลังชื่อ เพื่อใช้ยืนยันตัวจริงของเจ้าของนามแฝง และป้องกันบุคคลอื่นแอบอ้างนำนามแฝงไปใช้โดยเจตนา

ข้อสีย....
-การสมัครสมาชิกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ให้ทางเว็บทั้งสิ้น แต่มีการสมัครแบบ Mobile Register ที่ต้องเสียค่าบริการ sms ข้อความละ 10 บาท ซึ่งเป็นค่าดำเนินการของระบบมือถือ ไม่ใช่ค่าสมัครสมาชิก
-สามารถใช้สิทธิ์ต่างๆ เหมือนสมาชิก ยกเว้น ไม่สามารถโพสกระทู้ในบางห้อง ได้แก่ ราชดำเนิน, สินธร, ศาสนา, โต๊ะเครื่องแป้ง, ศุภชลาศัย และอาจถูกจำกัดสิทธิ์ในห้องอื่นๆ เพิ่มในอนาคต, ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการงาน ระบบคะแนนสมาชิก (แลกรางวัล, ถูกใจให้ give), โหวตกระทู้แนะนำ, โหวตลบกระทู้ (ไฟเขียว-ไฟแดง), โหวต Blog, โหวตผู้ใช้งานออกจากห้อง Chat หรืออาจจะถูกจำกัดสิทธิพิเศษบางอย่าง ที่จะมีในอนาคต ที่จะมีในอนาคต

มีค่า PR:6






SEM .....


SEM (Search Engine Marketing)
SEM เป็นการทำการตลาดออนไลน์ผ่านเสิร์จเอ็นจิ้น (Search Engine) โดยใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด Search Engine Marketing นั้นนับได้ว่าเป็นเครื่องมือในการทำการตลาดได้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงและ สะดวกรวดเร็วผ่านสื่อออนไลน์ที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลก โดยผ่านการสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต
การทำ SEM (Search Engine Marketing) สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ
1. SEO (Search Engine Optimization) หรือการโปรโมทเว็ปไซต์ คือ การเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ในส่วนของผลการค้นหาทั่วไปในหน้า Search Result Page โดยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในเว็บไซต์ให้เป็นไปตามกฏของ Search Engine นั้นๆ
2. PPC (Pay Per Click) คือ ส่วนของพื้นที่โฆษณาซึ่งอยู่ในหน้า Search Result Page เช่นกัน แต่ต้องจ่ายเงินเมื่อมีการคลิ๊กเปิดเข้าไปดูเว็บไซต์ PPC มีข้อแตกต่างกับ SEO ตรงที่สามารถแสดงผลในลำดับต้นๆได้ง่ายและรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างในเว็ปไซด์ เพียงแค่ประมูล Keyword ที่ต้องการมา เว็บไซต์ก็สามารถแสดงอยู่ในอันดับต้นๆได้

ปัจจัยของการทำ SEO

ปัจจัยต่าง ๆ ของการทำ SEO

ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ On-Page Factor และ Off-Page Factor

On-Pages Factor คือ ทุกสิ่งที่ Search Engine สามารถมองเห็นจากเว็บไซต์  ซึ่งเป็นปัจจัยภายใน เช่น
เนื้อหา หัวเรื่อง การเชื่อมโยง  เป็นต้น เหมือนกับที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้จากโปรแกรม Text Browser
ซึ่งในการทำ On-Page Factor ควรคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
- ที่ Title Tag ควรใส่คำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาภายในหน้าเอกสารนั้น ๆ เช่น ถ้าเนื้อหาของหน้าเว็บนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกร้อน ควรใช้ Title ว่า “โลกร้อน”
- ควรวางขอบเขตของเนื้อหาในเอกสารแต่ละหน้า เช่น ถ้าต้องการเขียนเรื่องข้อมูลภาพยนตร์ ก็ไม่ควรให้มีข้อมูลอื่น ๆ เช่น เล่นเกม ฟังเพลง ปนอยู่
- การสร้าง Links ควรเชื่อมโยงไปที่หน้าเอกสาร ที่เกี่ยวกับข้อความที่ปรากฎใน Links เช่น
การทำ HyperLinks ที่ข้อความว่า “ภาพยนตร์” ก็ควร Links ไปในหน้าที่มีข้อมูลภาพยนตร์ ไม่ควร Link ไปในหน้าที่มีเนื้อหาอื่น ๆ เช่น เนื้อเพลง หรือ กลอน
- พยายามจัดกลุ่มของเนื้อหา และการเชื่อมโยงต่าง ๆ ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย
- พยายามตั้งชื่อไฟล์ให้สอดคล้องกับหัวข้อของเนื้อหาภายในหน้าเอกสาร

Off-Pages Factor คือ สิ่งต่าง ๆ ที่ Search Engine ไปพบเจอมา ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฎอยู่ในหน้าเอกสารเว็บไซต์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยภายนอกดังเช่น
- การทำ Sitemap
- การเพิ่ม Link Popularity
- การเพิ่มรายชื่อเว็บไซต์ใน Directory Listing
- การทำ Social Networking